เทนนิส คืออะไร แปลภาษา แปลว่า หมายถึง

เมื่อจบเกมแรก ผู้รับจะต้องเปลี่ยนเป็นผู้เสิร์ฟ และผู้เสิร์ฟต้องเปลี่ยนเป็นผู้รับ สลับกันเรื่อยไปจนกว่าจะจบการแข่งขัน แต่ถ้าผู้เล่นคนใดเสิร์ฟผิดรอบ ผู้เล่นที่ควรจะเป็นผู้เสิร์ฟจะต้องเป็นผู้เสิร์ฟต่อไปทันที การขานเล็ท (Let)

ผู้เสิร์ฟจะได้แต้มเมื่อ ลูกที่เสิร์ฟที่ไม่ได้เป็นเล็ทดังที่ระบุไว้ว่า https://sports-th.com/ ลูกไปสัมผัสผู้รับหรือสิ่งที่ผู้รับสวมหรือถืออยู่ก่อนที่จะสัมผัสพื้น

Th Beach Tennis

ลูกที่เสิร์ฟไปนั้น สัมผัสสิ่งติดตั้งถาวรอย่างใดอย่างหนึ่ง ก่อนสัมผัสพื้น (ยกเว้นตาข่ายและแถบขึงตาข่าย) แต่ในกรณีที่หลังจากโยนลูกเพื่อเสิร์ฟแล้ว ผู้เสิร์ฟเปลี่ยนใจไม่ตีลูกแล้วใช้มือรับลูกไว้ จะถือว่าลูกนั้นไม่เสีย ลำดับการเสิร์ฟ

คำว่า “เล็ท” ที่กรรมการเป็นผู้ขานขึ้น เพื่อหยุดยั้งการเล่น มีความหมายดังนี้ ขานเมื่อให้เสิร์ฟลูกนั้นใหม่ ขานเมื่อให้เล่นแต้มนั้นใหม่ การขานเล็ท ในขณะเสิร์ฟ หมายถึง

ผู้เล่นไม่สามารถตีลูกที่อยู่ในการเล่นให้ข้ามตาข่ายกลับไปก่อนที่ลูกจะสัมผัสพื้นสองครั้งได้ ผู้เล่นตีลูกที่อยู่ในการเล่นไปสัมผัสพื้น สิ่งติดตั้งถาวร หรือวัตถุอื่นใดซึ่งอยู่นอกเส้นที่ล้อมรอบสนามของคู่ต่อสู้ ผู้เล่นตีลูกก่อนลูกตกถึงพื้น แต่เสีย แม้จะยืนอยู่นอกสนามก็ตาม

ผู้เสิร์ฟทำเสียแต้ม ผู้เล่นจะเสียแต้มเมื่อ

  • เส้นเสิร์ฟ (service line) เป็นเส้นแนวนอนขีดแบ่งพื้นที่ในสนามของแต่ละฝ่ายออกเป็นด้านหน้าและด้านหลัง เส้นอยู่ห่างจากตาข่าย 6.40 เมตร (21 ฟุต)
  • เส้นข้าง (sideline) เป็นเส้นแนวตั้งด้านซ้ายและขวาของขอบสนาม ทอดไปตามความยาวของสนาม ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดขอบเขตความกว้างของพื้นที่สนาม ในการเล่นประเภทเดี่ยวจะใช้เส้นข้างด้านใน (single sideline) ส่วนการเล่นประเภทคู่จะใช้เส้นข้างด้านนอก (double sideline)
  • เส้นหลัง หรือ เส้นท้ายสนาม (baseline) เป็นเส้นแนวนอน อยู่ด้านหลังสุดของสนามของแต่ละฝ่าย และจะมีขีดกลาง (center mark) อยู่ตรงกึ่งกลางของเส้นหลัง
  • เมื่อบอลตกสัมผัสเส้นถือว่าบอลสัมผัสพื้นที่ว่างภายในเส้นนั้น
  • ตาข่าย (เน็ต)

การเปลี่ยนข้าง ผู้เล่นจะต้องเปลี่ยนข้างเมื่อจบเกมที่หนึ่ง เกมที่สอง และทุก ๆ เกมคี่ของแต่ละเซต และต้องเปลี่ยนข้างเมื่อจบเซตรวมกันแล้วเป็นเลขคู่ วิธีนับแต้มในแต่ละเกม ส่วนที่มาของการนับแต้ม 15, 30, 40 มาจากสมัยก่อนใช้นาฬิกาในการขึ้นคะแนน โดยเข็มสั้นและเข็มยาวเป็นตัวแทนผู้เล่น มีวิธีการนับดังนี้ แต้มที่ 1 นับ 15 เลื่อนเข็มนาฬิกาไปที่เลข 3 ขานแต้มว่า Fifteen

การที่ลูกเสิร์ฟไปสัมผัสตาข่าย หรือแถบขึงตาข่าย แล้วตกในสนามที่ถูกต้อง การที่เสิร์ฟในขณะผู้รับไม่พร้อมที่จะรับ ไม่ว่าจะเป็นการเสิร์ฟที่ดีหรือเสียก็ตาม ทั้งนี้เมื่อมีการเสิร์ฟที่เป็นเล็ท จะไม่มีฝ่ายใดได้แต้ม

เทนนิส

แต้มที่ 2 นับ 30 เลื่อนเข็มนาฬิกาไปที่เลข 6 ขานแต้มว่า Thirty แต้มที่ 3 ในกีฬาเทนนิสจะนับ 45 เลื่อนเข็มนาฬิกาไปที่เลข 9 ขานแต้มว่า Forty-five จนกระทั่งปี ค.ศ. 1875 สโมสร Marylebone Cricket Club (MCC) ในอังกฤษซึ่งเป็นผู้ออกกฎกติกาเทนนิสสมัยใหม่ ได้เปลี่ยนมานับแต้มที่สามเป็น 40 หรือ Forty แทน เพื่อให้กรรมการออกเสียงง่ายขึ้น แต้มที่ 4 เข็มนาฬิกาไปที่เลข 12 ขานแต้มว่า เกมส์ (Game) เป็นอันจบเกม

ผู้รับทำเสียแต้ม โอกาสที่ผู้รับได้แต้ม ผู้รับจะได้แต้มเมื่อ ผู้เสิร์ฟเสียสองลูกติดต่อกัน

ผู้เล่นจะต้องอยู่คนละฝั่งของตาข่าย ผู้ที่ส่งลูกก่อนคือ “ผู้เสิร์ฟ” ส่วนอีกฝ่ายคือ “ผู้รับ” ในกรณีที่ผู้เล่นพยายามเสิร์ฟลูกล้ำแนวเส้นสมมติที่ลากตรงต่อจากตาข่ายออกไป จะถือว่าไม่เสียแต้ม เว้นแต่ผู้เล่นจะเสิร์ฟล้ำเข้าไปในสนามของคู่ต่อสู้ ทั้งนี้ผู้รับสามารถยืนอยู่ในตำแหน่งใดของสนามในด้านของตนเองก็ได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ในเส้นขอบของสนาม การเลือกแดนและเลือกเสิร์ฟ การเลือกแดนและการเลือกเสิร์ฟ จะชี้ขาดด้วยการเสี่ยง โดยผู้เล่นที่เป็นผู้ชนะ มีสิทธิ์เลือกก่อนหรือให้คู่ต่อสู่เลือกก่อนก็ได้ ก่อนเสิร์ฟ ผู้เล่นที่เป็นฝ่ายเสิร์ฟต้องยืนข้างหลังเส้นด้วยเท้าทั้งสองข้าง (ให้เส้นหลังอยู่ระหว่างตาข่ายกับผู้เสิร์ฟ) โดยอยู่ระหว่างเส้นสมมติที่ลากตรงต่อออกไปจากจุดกึ่งกลาง จากนั้นให้ผู้เล่นที่เป็นฝ่ายเสิร์ฟ ใช้มือโยนลูกขึ้นไปในอากาศ แล้วใช้ไม้เทนนิสตีลูกนั้นก่อนที่จะตกถึงพื้น เมื่อไม้สัมผัสลูก ถือว่าการเสิร์ฟเสร็จสิ้น การเสิร์ฟลูกที่สอง

เมื่อเสิร์ฟลูกแรกเสีย ผู้เสิร์ฟจะต้องเสิร์ฟอีกลูกหนึ่งจากหลังสนามด้านเดิมที่เสิร์ฟลูกแรกไปแล้ว แต่ในกรณีลูกแรกที่เสิร์ฟเสียนั้นเป็นเพราะผู้เสิร์ฟยืนผิดด้าน ให้ผู้เสิร์ฟ เสิร์ฟใหม่อีก 1 ลูก จากหลังอีกด้านหนึ่ง ลูกเสิร์ฟเสีย ในกรณีที่ถือว่า ลูกเสิร์ฟเสีย มีดังนี้ ผู้เสิร์ฟทำผิดกติกา ผู้เสิร์ฟตีลูกอย่างเจตนา แต่ไม่ถูก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Loading...